วิธีการปลูกดอกสร้อยไก่ CEL-101

ดอกหลายสีคละกัน ช่อดอกย่อยมีการเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ต้นเตี้ย ออกดอกเร็ว ในฤดูหนาวจะออกดอกเร็วกว่าปกติ เนื่องจากเป็นวันสั้น ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี

การเพาะเมล็ดมี 2 วิธี

การเพาะเมล็ดในตะกร้า

  1. เตรียมวัสดุเพาะ 2 ส่วน ทรายละเอียด 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2.  เตรียมตะกร้า และนำกระดาษหนังสือวางในตะกร้า เพื่อกันวัสดุเพาะไหลออก
  3. นำวัสดุเพาะที่เตรียมไว้บรรจุในตะกร้า ความหนาประมาณ ¾ ของความสูงตะกร้า  
  4. นำไม้ทำร่อง ความลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่อง ประมาณ 3 เซนติเมตร 
  5. หยอดเมล็ดลงในร่อง อย่าให้หนาแน่นเกินไป แล้วกลบเมล็ดหนาประมาณ 0.4 เซนติเมตร แล้วยกตะกร้าไว้ในที่พรางแสง 
  6. ดูแลรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้วัาดุเพาะมีความชื้นเพียงพอ เมื่อต้นกล้า อายุ 5-6 วัน จึงย้ายลงในถาดเพาะต่อไป
  7. เมื่อกล้าอายุประมาณ  7 วัน ย้ายต้นกล้าลงในถาดเพาะ  

การเพาะเมล็ดในถาดเพาะ

  1. ทำการผสมพีทมอสกับสารเคมีกันเชื้อรา Propamocarb hydrochloride (อัตรา 0.4 ซี.ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร) คลุกเคล้าให้เข้ากันสังเกตวัสดุเพาะจับตัวเป็นก้อนและมีน้ำซึมตามร่องนิ้วเล็กน้อย
  2. ใส่วัสดุเพาะลงในตะกร้าหนาประมาณครึ่งนิ้ว ปาดผิวหน้าวัสดุเพาะให้เรียบ พ่นน้ำให้ชุ่ม
  3. ใช้ไม้บรรทัดเกลี่ยผิววัสดุให้เรียบ ทำร่องรูปตัววีลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 3 เซนติเมตร
  4. ทำการหว่านในตะกร้าให้กระจายอย่าให้ติดกันเป็นกระจุกเพราะจะยากต่อการย้ายลงถาดเพาะ
  5. ย้ายไปไว้ในทีพรางแสง 80 – 90% พ่นน้ำฝอยละเอียด และอย่าปล่อยให้วัสดุแห้งจะทำให้เมล็ดไม่งอกได้ ในระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 4-5 วันในการงอก
  6. เมื่อต้นกล้ามีใบเลี้ยง 1 คู่แล้วซึ่งจะใช้ระยเวลาประมาณ 7-8วัน จึงทำการย้ายต้นกล้าลงถาดเพาะต่อไป

การย้ายปลูก

การเตรียมดินปลูกต้องพิถีพิถันพอสมควร เพราะไม้ดอกส่วนใหญ่มีอายุการออกดอกสั้น ดินปลูกต้องเป็นดินโปร่ง ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี ในขณะเดียวกันอุ้มความชื้นได้ดีพอสมควร มีความเป็นกรดเล็กน้อย มี pH ประมาณ 6.5 – 7 ส่วนผสมของดินปลูกควรหาง่ายในท้องถิ่น 

สูตรที่1  ส่วนประกอบดินผสม  ได้แก่ ดินร่วน  ปุ๋ยหมัก  แกลบดิบ   แกลบเผา   ขุยมะพร้าว  อัตราส่วน  1 : 1 : 2 : 2 : 2

สูตรที่ 2 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่ แกลบดิบ  ขุยมะพร้าว  ดิน   อัตราส่วน 3 : 5 : 2

สูตรที่ 3 ขุยมะพร้าว  ทรายหยาบ  + โดโลไมท์  อัตราส่วน 3 : 1 +โดโลไมท์ 

อัตราส่วนผสมรวมกัน 240 ลิตร ( ขุยมะพร้าว 180 ลิตร + ทรายหยาบ 60 ลิตร  ใช้โดโลไมท์ 0.5 กก.)

  หรือ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงสูตรได้ตามความเหมาะสม ตามประสบการณ์ หรือคู่มืออื่นๆ

การย้ายปลูกต้นกล้าลงกระถางหรือถุงดำ  

  1. หลังจากเย้ายต้นกล้าลงถาดเพาะไปแล้วประมาณ 12-15 วัน ให้สังเกต ต้นกล้าเมื่อมีใบจริง 2-3 คู่ขึ้นไป หรือให้สังเกตุดูปริมาณรากว่าหุ้มกับวัสดุเพาะดีแล้ว หรือต้นกล้าจะโตพอที่จะย้ายได้  

  2. นำต้นกล้าลงในถุงพลาสติก หรือกระถาง โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา 

  3. นำต้นกล้าหยอดลงในหลุมแล้วกลบด้วยดิน  หากต้นกล้ายืดหรือยาวกว่าปกติให้เจาะหลุมลึกขึ้นอีก หยอดต้นกล้าลงหลุมและกลบให้ชิดถึงใบจริงคู่แรก ช่วยแก้ปัญหาต้นกล้ายืดผิดปกติได้  

  4. ดูแลต้นกล้าจนกระทั่งต้นโต 

การย้ายปลูกต้นกล้าลงแปลง

  1. หลังจากย้ายลงถาดเพาะได้ประมาณ 12-15 วัน มีใบจริง 2-3 คู่ใบขึ้นไป หรือให้สังเกตุดูปริมาณรากว่าหุ้มกับวัสดุเพาะดีแล้ว
  2. ควรย้ายปลูกในช่วงเย็น ( แดดอ่อนๆ) เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำของต้นกล้าส่งผลให้ต้นกล้ามีการตั้งตัวได้ดีหลังการย้ายปลูก
  3. ดึงต้นกล้าเบาๆ พร้อมดินหุ้มรากให้มากที่สุด ตุ้มไม่แตก เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
  4. นำต้นกล้าลงในถุงพลาสติก หรือกระถาง โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา
  5. ปลูกในหลุมที่กว้างพอดีกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้ระดับดินมากที่สุด
  6. ดูแลการให้น้ำ และรดน้ำให้ชุ่ม

การดูแลรักษา

การให้น้ำ  ควรรดน้ำทุกวันในตอนเช้าหรือเย็น หากรดน้ำในเวลาเย็นควรให้น้ำ ที่ค้างอยู่บนใบแห้งก่อนพระอาทิตย์ตกดิน   และเมื่อมีดอกบาน อย่ารดน้ำให้ถูกดอกเพราะอาจทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้  การให้น้ำควรให้สภาพดินชุ่มสลับแห้ง ไม่ควรให้ชุ่มตลอดเวลา เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า และทำให้ระบบรากไม่พัฒนา ส่งผลให้ต้นแคระแกร็น ไม่สมบูรณ์  สามารถสังเกตสีของดินหรือวัสดุเพาะ หากมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม แสดงว่าดินยังชุ่มหรือมีน้ำอยู่ เมื่อดินเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลอ่อน แห้งแข็ง แสดงว่าดินขาดน้ำ

การให้ปุ๋ย 

ปุ๋ยสูตรน้ำ

ระยะที่ 1  เสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก  ลำต้นและใบ  หลังจากย้ายกล้าแล้วประมาณ 7 วัน  ให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง  เช่น สูตร  15 – 0 – 0 หรือ 25 – 7 – 7  ในอัตรา 1  ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ  20   ลิตร รดทุกๆ  5 – 7  วัน  ประมาณ  2 – 3  ครั้ง

ระยะที่ 2   ช่วงการเจริญเติบโตถึงระยะสังเกตเห็นตุ่มดอก  ให้ปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15  อัตรา  75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ  ละลายน้ำ   20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน  จนกระทั่งดอกเริ่มบาน

ระยะที่ 3  เมื่อดอกเริ่มบาน  ให้ปุ๋ยสูตร ให้ปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24  หรือ 13 – 13 – 21  อัตรา  75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ  ละลายน้ำ   20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน  ต่อเนื่องตลอดอายุการให้ดอก

ปุ๋ยเม็ด

สามารถให้ปุ๋ยสูตรต่างๆ เหมือนสูตรน้ำ ระยะที่ 1 – 3  อัตรา 10 กรัม/ต้น   ทุกๆ  7 วัน  โดยฝังลงในดินหรือใช้ดินกลบ

 ข้อควรระวัง :  

  • การให้ปุ๋ยเม็ด ระวังอย่าให้โดนโคนต้นเพราะอาจทำให้เน่าและไหม้ได้ ควรฝังลงดินหรือใช้ดินกลบ

  • การให้ปุ๋ยน้ำ อาจสัมผัสโดนใบและทำให้ใบไหม้ได้ ดังนั้นเมื่อรดปุ๋ยแล้วให้รดน้ำเพื่อล้างใบตาม

หมายเหตุ :  หากไม่สามารถหาปุ๋ยได้ตามสูตร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร  15 – 15 – 15 หรือสูตรเสมอทดแทนได้ทุกระยะ  แต่การเจริญเติมโตอาจไม่ดีเท่าสูตรที่แนะนำ  หรือสำหรับบางท่านที่ไม่สะดวกในการให้ปุ๋ยบ่อยครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยละลายช้า สูตร  14 – 14 – 14  แนะนำเป็นตัว เนเจอร์ โค้ท สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นานถึง 3 เดือน แต่จะไม่ดีเท่าการให้ปุ๋ยตามระยะ

             

Short URL :